789bettl.org
ลง text link แสดงทุกหน้า ติดต่อ ait.arsenal@gmail.com

7 ดาวดับอาร์เซน่อล ที่ย้ายทีม แล้วมีผลงานโดดเด่น กับ ต้นสังกัดใหม่

By
Updated: พฤษภาคม 7, 2020

อาร์เซน่อล ถือ เป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ที่เคยอัดแน่นไปด้วย สตาร์ดัง รวมอยู่ในทีมมากมาย แต่ในช่วงที่มีโปรเจกต์สร้างสนามใหม่ พวกเขาต้องปล่อยสตาร์ดังเหล่านั้นออกไป และคอยปั้น ดาวรุ่ง ขึ้นมาทดแทน เรื่อยๆ แต่ก็ยังมีดาวรุ่งหรือบิ๊กเนมบางคนที่ไม่สามารถแจ้งเกินในถิ่นเอมิเรสต์นี้ได้ และนี่คือ 7 ดาวดับอาร์เซน่อล ที่ย้ายออกจากทีมไปแล้วได้ดี กับสโมสรใหม่ จะมีใครบ้างไปรับชมกันได้เลยแล้วมีใครบ้าง

แซร์จ นาบรี้ (Serge Gnabry)

ชั่วโมงนี้ คงจะไม่มีใครไม่รู้จักเขาแล้ว เพราะเป็นดาวเด่นของ เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค แต่ในอดีต เขามาร่วมทัพอาร์เซน่อล โดยอาร์แซน เวนเกอร์ ตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี ด้วยค่าตัวแค่ 100,000 ปอนด์เท่านั้น ซึ่งหลายฝ่ายมองว่านี่คืออนาคตแห่งวงการฟุตบอลเยอรมัน และ เมซุส โอซิล ก็ยืนยันถึงความสามารถของเขาเช่นกัน แต่อาการบาดเจ็บดันมาหยุดการพัฒนาของเขาในช่วงที่อยู่กับอาร์เซน่อล

จนในที่สุดถูกปล่อยตัวให้กับเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนยืมตัวไป จนกระทั่งปี 2017 อาร์แซน เวนเกอร์ตัดสินใจขายต่อให้กับแวร์เดอร์ เบรเมน ด้วยราคา 5 ล้านปอนด์ และปีต่อมา ก็ข้ามฟากไปอยู่กับบาเยิร์น มิวนิค จนตอนนี้ แซร์จ นาบรี้ ดังเป็นพลุแตก และฉายแวว ซูเปอร์สตาร์ ออกมาเรื่อยๆ แล้ว

ดอนเยลล์ มาเลน (Donyell Malen)

อดีตเด็กปั้นอาแจ๊กซ์ ที่อาร์เซน่อลซิวตัวมาสู่ทีมในปี 2015 แต่เขาไม่สามารถสอดแทรกตัวเองขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้ แม้ว่าอาร์แซน เวนเกอร์ จะเคยกล่าวชื่นชมและเห็นแววในตัวเด็กคนนี้ในช่วงปรีซีซั่น แต่ที่สุดแล้วทีมปืนใหญ่ก็ตัดสินใจปล่อยตัวดอนเยลล์ มาเลน กลับบ้านเกิดที่ฮอลแลนด์ในปี 2017 ก่อนที่เจ้าตัวจะมาแจ้งเกิดกับพีเอสวี ไอนโฮเฟ่น ยอดทีมแห่งดัตช์

ซึ่งเมื่อฤดูกาลก่อน มาเลน ก็ทำผลงานส่วนตัวได้อย่างยอดเยี่มโดยยิงไปได้ 11 ประตู คว้าแชมป์ลีกดัตช์มาครองได้ เช่นเดียวกับในปีนี้ที่ยิงไปแล้ว 17 ประตูจาก 25 เกมที่ลงเล่นในทุกรายการ จนกระทั่งติดทีมชาติฮอลแลนด์ชุดใหญ่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีรายงานว่า อาร์เซน่อลสนใจที่จะดึงกลับมาเล่นอีกครั้ง เช่นเดียวกับลิเวอร์พูลและเอฟเวอร์ตัน ที่มีข่าวให้ความสนใจเช่นเดียวกัน

อิสมาเอล เบนนาเชอร์ (Ismael bennacer)

ในปี 2015 เบนนาเชอร์ เดินทางจากฝรั่งเศสเพื่อเข้าร่วมทีมอาร์เซน่อล และในปีเดียวกันก็ได้รับโอกาสลงสนามนัดแรกในศึกลีกคัพ แต่ทีมดันพ่ายยับต่อเชฟฟิลด์ เว้นสเดย์จากแชมเปี้ยนชิพไป 3-0  นอกจากนี้การลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่เพื่อตะลุยศึกพรีเมียร์ลีกของเขา ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก แถมโดนปล่อยตัวไปให้ ตูร์ ลีกบ้านเกิดยืมใช้งานอีกต่างหาก

จนกระทั่งปี 2017 ทีมปืนใหญ่ตัดสินใจขาย อิสมาเอล เบนนาเชอร์ ต่อให้กับเอ็มโปลี และมีส่วนช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นกลับมาเล่นให้ในเซเรียอาได้อีกครั้ง และฉายแววความเก่งทำให้ เอซี มิลาน ทุ่มเงิน 16 ล้านยูโร คว้าตัวไปเสริมทัพ และได้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่อง แจ้งเกิดกันไปอีกราย

วอจเชค เชสนี่ (Wojciech Szczesny)

เชื่อว่าแฟนปืน หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตานายประตูดาวรุ่งโปแลนด์กันเป็นอย่างดี เพราะมีโอกาสได้ขึ้นมาเฝ้าเสาตะลุยศึกพรีเมียร์ลีกอยู่พักใหญ่ๆ  ให้กับอาร์เซน่อล แต่พ่อหนุ่มคนนี้ทำร้ายตัวเอง เพราะพฤติกรรมนอกสนาม ดันแอบไปสูบบุหรี่ ในห้องอาบน้ำ ทำให้อาร์แซน เวนเกอร์ตัดสินใจปล่อยให้ เบรนท์ฟอร์ด และ โรม่ายืมตัวไปใช้งาน

และหายหน้าหายตาไปจากถิ่นเอมิเรตส์ทันที ก่อนที่ยูเวนตุส จะโผล่มาซิว วอจเชค เชสนี่ ตัวไปเฝ้าเสาด้วยราคา 11 ล้านปอนด์ โดยมีเป้าหมายให้เป็นตัวแทนของจิอันลุยจิ บุฟฟ่อน และสามารถคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรียอา ร่วมกับทีมมาสองสมัยติดต่อกันแล้ว ยังไม่นับรวมในฤดูกาลนี้

คาร์ลอส เวล่า (Carlos Vela)

ดาวยิงเม๊กซิ กันผู้เคยได้รับฉายาว่า “ร็อบบี้ ฟาวเลอร์แห่งเม๊กซิโก” เข้าร่วมอาร์เซน่อลตั้งแต่ปี 2005 หลังจากร่วมคว้าแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีกับเม๊กซิโก พร้อมคว้ารางวัลดาวซัลโวมาครอง แต่ดูเหมือนว่า เมื่อโดนดันขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ เขาจะไม่สามารถงัดฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมออกมาได้ ตลอด 3 ฤดูกาลที่เล่นในชุดอาร์เซน่อล เขายิงได้แค่ 11 ประตู จาก 62 นัดที่ลงสนามในทุกรายการ ก่อนที่ เวล่า จะถูก เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ยืมตัวไปเล่น และต่อด้วย เรอัล โซซิดัน ที่ยืมตัวและเซ็นสัญญาถาวรในเวลาต่อมา ด้วยค่าตัวสุดถูก 3 ล้านยูโรเท่านั้น

แต่การเล่นบนแผ่นดินกระทิงดุของ คาร์ลอส เวล่า ดูเหมือนจะเป็นการปลุกสัญชาตญาณการเป็นยอดดาวยิงขึ้นมาใหม่ เพราะ ฟอร์มยิงประตูของเขา สามารถทำใหตัวเองมีสถิติยิงได้มากถึง 73 ประตู และได้ลงเล่น 250 นัดให้ โซเซียดัด และในปัจจุบัน เขาย้ายกลับมาเล่นเมเจอร์ลีก ที่ใกล้บ้านเกิด ร่วมกับทีมลอสแองเจลิส เอฟซี และยังยิงประตูอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม โดยฤดูกาลที่แล้ว ซัดได้ 38 ประตูจากการลงเล่น 36 เกม!!!

โจวานี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์ (Giovanni van Bronckhorst )

หลังจากโดดเด่นกับกลาสโกว์ เรนเจอร์ส อาร์แซน เวนเกอร์ ก็จัดการเซ็นสัญญา ฟาน บรองค์ฮอร์สท์ ดาวเตะทีมชาติฮอลแลนด์มาร่วมทีมในปี 2001 ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ โดยตั้งเป้าหมายให้เป็นตัวแทนของเอ็มมานุเอล เปอตีต์ ที่จะไปสมทบกับ ปาทริค วิเอร่า ที่บาร์เซโลน่า แต่เพียงไม่กี่เดือน เขาก็ประสบปัญหาอย่างหนักที่เอ็นไขว้หน้าหัวเข่า ซึ่งเมื่อกลับมาแล้ว เวนเกอร์ พยายามหาตำแหน่งที่ดีที่สุดให้กับเขา โดยส่งลงเล่นทั้งมิดฟิลด์และแบ็คซ้าย แต่ก็ทำผลงานได้ไม่น่าพอใจนัก

จนกระทั่งในปี 2003-04 แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด ที่รับหน้าที่เป็น ผู้จัดารทีมบาร์เซโลน่า ในเวลานั้น ได้ตัดสินใจยืมตัว โจวานี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์ เพื่อนร่วมชาติมาใช้งานก่อนจะเซ็นซื้อขาดกันในที่สุด ด้วยค่าตัวแค่ 2 ล้านปอนด์เท่านั้น โดยได้เล่นเป็นตัวหลักให้กับทีมและคว้าแชมป์ลาลีกาได้ 2 สมัย ก่อนจะหวนคืนต้นสังกัดเก่าอย่างเฟเยนูร์ด และแขวนสตั้ดที่นั่นในเวลาต่อมา

ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า (Lassana Diarra)

หลังจาดได้รับเสื้อหมายเลข 8 ต่อจาก เฟดริค ลุงเบิร์ก ที่อำลาทีมไป อาร์แซน เวนเกอร์ ก็หวังที่จะ ดิยาร์ร่า ขึ้นมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวหลัก ที่สามารถเล่นได้หลากหลายมิติให้กับทีม แต่ที่สุดแล้ว มาริเยอ ฟลามินี่ และ เชส ฟาเบรกาส คือคนที่นายใหญ่ชาวฝรั่งเศสเลือกใช้งานและให้โอกาสมากกว่า

และส่งผลให้ ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า ได้ลงเล่นบ้างในตำแหน่งแบ็คแทน อีกไม่กี่อึดใจเขาก็ถูกขายต่อให้กับปอร์ทสมัธ ด้วยราคา 5.5 ล้านปอนด์ และไปร่วมคว้าแชมป์เอฟเอคัพกับต้นสังกัดใหม่ จนกระทั่งเป็นเป้าหมายของเรอัล มาดริด และทุ่มเงินถึง 18.8 ล้านปอนด์ ไปสวมชุดทีมราชันย์ชุดขาว ทำให้เขามีสถิติเล่นให้ทีมปืนใหญ่แค่ 7 นัดเท่านั้น

ก็จบกันไปแล้วนะครับ สำหรับเรื่องราวของ 7 ดาวดับอาร์เซน่อล ที่สามารถกลับมาแจ้งเกิดให้กับสโมสรใหม่ได้อย่างไรที่ติ ซึ่งหากใครที่สนใจอยากจะอ่านข่าว ทีมปืนโต Arsenal News  แบบนี้อีก ก็กดบุ๊มาร์ก แล้วรอติดตาม ข่าวบอล อัพเดตใหม่ล่าสุด จากเราได้เลย

และหากคุณกำลังหา เว็บแทงบอล เว็บพนันดีที่สุด ในปี 2020 อยู่เราก็ขอแนะนำ SBO มีโปรโมชั่นดีๆ คุ้ม ให้คุณได้เลือกใช้มากมาย พร้อมเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ ตอบปัญหา ข้อสงสัย ตลอด 24ชั่วโมง

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply