ลง text link แสดงทุกหน้า ติดต่อ ait.arsenal@gmail.com

การเผชิญหน้ากับหลุมดำทางการเงินของ อาร์เซนอล

By
Updated: เมษายน 17, 2020

อาร์เซนอล เป็นสโมสรที่จัดการบัญชีของพวกเขาอย่างรอบคอบมาหลายปี แต่พวกเขาก็หนีไม่พ้นผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ในขณะที่ยังคงมีจุดยืนระหว่าง อาร์เซนอล และนักเตะยังคงยืนกรานต่อการลดค่าเหนื่อย คำถามเดียวกันก็ยังคงถูกถามอยู่

การเผชิญหน้ากับหลุมดำทางการเงินของ อาร์เซนอล

ทำไมสโมสรที่มีบัญชีที่น่าประทับใจอย่างต่อเรื่องในทศวรรษที่ผ่านมาต้องดิ้นรนหาเงินเพียงหนึ่งเดือนที่ฟุตบอลถูกระงับการแข่งขัน?

สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนเลวร้ายอย่างที่พวกเขาเป็นหรือ? หรือเจ้าของอย่าง สแตน โครเอนเก้ ใช้ปัญหาทางด้านการเงินจากการระบาดของโควิด-19 เพื่อเป็นข้ออ้างในการลดรายจ่าย

มันไม่ใช่แค่แฟนบอลที่กำลังถามคำถามเหล่านั้น รวมถึงนักเตะด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยู่ในสถานการณ์ที่เราเป็นอยู่ในขณะนี้, กับการที่ทีมปฏิเสธข้อเสนอล่าสุดของ อาร์เซนอล ในการลดค่าเหนื่อย 12.5% ต่อปี

ความรู้สึกไม่ไว้วางใจระหว่างทีมและผู้บริหารสโมสรนั้นแทบจะไม่ชัดเจนในบางครั้ง, การพูดคุยในตอนนี้ซึ่งดำเนินมาอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ขจัดความสงสัยออกไปเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

ด้านหนี่ง นักเตะเปิดรับข้อเสนอการเลื่อนค่าเหนื่อยบางส่วนของพวกเขาออกไป โดยเงินควรจะนำไปให้กับเจ้าหน้าที่สโมสรคนอื่นๆในงานของพวกเขาช่วงตลอดของการแพร่ระบาด แต่พวกเขาก็ต้องการรับประกันว่าเงินส่วนนั้นจะไม่ไปเข้าประเป๋าของ โครเอนเก้ หรือใช้ในตลาดนักเตะอย่างมีประสิทธิภาพ

เหล่านักเตะหวังว่าการเจรจาต่อไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้จะได้ข้อสรุปการแก้ปัญหาบางอย่าง ซึ่งสโมสรยืนยันว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น

ดังนั้น ทำไม อาร์เซนอล ถึงดูเหมือนจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากทางการเงินละ?

นับตั้งแต่สโมสรเปลี่ยนมาใช้สนาม เอมิเรตส์ จาก ไฮบิวรี่, การเงินของสโมสรก็เข้มแข็งขึ้น ด้วยจำนวนรายรับจากเกมการแข่งขัน, การขายนักเตะและรายได้จากการถ่ายทอดสด

อย่างไรก็ตามในเดือนธันวาคม อาร์เซนอล ประกาศผลประกอบการขาดทุน 27.1 ล้านปอนด์สำหรับปี 2018-19, มันเป็นครั้งแรกของสโมสรที่ขาดทุนนับตั้งแต่ปี 2002, และทำไมกัน? บิลค่าจ้างจำนวน 230 ล้านปอนด์

อาร์เซนอล ได้ยึดรูปแบบที่ยั่งยืนของตัวเอง แต่มันคือหลักการฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก, เป็นเวลาสองทศวรรษภายใต้ อาร์แซน เวนเกอร์, นั่นคือสิ่งที่มองเห็น แต่วันเหล่านั้นหายไป

มันเป็นเวลาสามฤดูกาลแล้วที่ อาร์เซนอล ไม่ได้ไปเล่นในฟุตบอลยุโรปและการขาดหายไปของสิ่งนั้นสร้างผลกระทบอย่างหนักในแง่ของรายได้

สามฤดูกาลในยูโรป้าลีกทำได้เพียงเล็กน้อยในการชดเชยรายได้ที่หายไป

อาร์เซนอล ทะลุเข้าถึงรอบชิงยูโรป้าลีกในปี 2019 ทำให้สโมสรมีรายได้ 34 ล้านปอนด์ และในขณะที่ตัวเลขนั้นน่ายินดี มันก็ยังน้อยกว่าเงินที่ทำได้จากตัวแทนทีมอังกฤษในแชมเปี้ยนส์ลีกปีนั้นอย่าง ลิเวอร์พูล ซึ่งคว้าแชมป์ โดยได้เงินถึง 98 ล้านปอนด์ ขณะที่ สเปอร์ส ได้ 92 ล้านปอนด์, แมนฯ ซิตี้ ได้ 82 ล้านปอนด์ และ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ 82 ล้านปอนด์

ตัวเลขนั้นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของรอบคัดเลือกแชมเปี้ยนส์ลีก, อินเตอร์ ซึ่งไม่ได้ผ่านรอบแบ่งกลุ่มเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ยังได้เงินถึง 48 ล้านปอนด์ มากกว่า อาร์เซนอล ที่เข้ารอบชิงยูโรป้าลีกเสียอีก

ดังนั้นการที่ห่างหายจากฟุตบอลยุโรปเป็นเวลานานรวมกับหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุดในโลกของฟุตบอล นั่นทำให้นำไปสู่การขาดทุนครั้งแรกของสโมสรในรอบ 18 ปี

การเงิน อาร์เซนอล เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่พวกเขาได้เล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งสุดท้าย มันคือบางสิ่งที่สโมสรกำลังดำเนินการ แต่ค่าจ้างก็ยังเป็นอย่างนั้น

แนวโน้มในฤดูกาล 2019-20 ดูดีขึ้น อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณการเข้ามาของ อดิดาส และ เอมิเรตส์ และการขายนักเตะบางส่วน แต่ตอนนี้การระบาดของไวรัสโคโรน่าทำให้เกิดความกดดันทางการเงินอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“นี่คือช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์เกือบ 134 ปี” แถลงการณ์จากสโมสรเมื่อวันพุธ

“การหยุดชะงักของฟุตบอลและผลกรทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสหมายถึงรายได้ของเราถูกระงับหรือตกอยู่ในความเสี่ยง ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับรายได้การถ่ายทอดสดอยู่ภายใต้ความกดดัน”

“ผลกระทบทางการเงินนี้มีความสำคัญ ดังนั้นเราต้องรับผิดชอบและดำเนินการเพื่อปกป้อง อาร์เซนอล จากสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า”

อาร์เซนอล มีเงินสำรองที่ดีในธนาคารอยู่ราว 167 ล้านปอนด์ นั่นคือสิ่งที่คับข้องใจกับแฟนบอลเสมอเมื่อตลาดนักเตะมักจะผ่านไปอย่างเงียบเชียบ

อย่างไรก็ตาม เงินสำคัญส่วนนั้นต้องถูกเก็บไว้เพื่อให้ครอบคลุมข้อสัญญาการกู้ยืมสนามและดังนั้นจึงไม่สามารถนำไปอุดรูรั่วที่อื่นได้

และผลที่ตามมาของการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วหมายความว่า 4 รายได้หลักของ อาร์เซนอล นั้นถูกคุกคามอย่างใหญ่หลวง

เงินสำหรับตั๋วฤดูกาลหน้า 2020-21 จะเข้ามาอย่างปกติ แต่ในฤดูกาลปัจจุบันยังคงเลื่อนอย่างไม่มีกำหนด, ทำให้ อาร์ฌซนอล ยังไม่สามารถขายตั๋วปีสำหรับฤดูกาลหน้าได้

และด้วยการแข่งขันที่คาดว่าจะเล่นกันในสนามปิดไม่มีคนดูเมื่อฟุตบอลกลับมาอีกครั้ง รายได้ซึ่งคิดเป็น 24% ของรายได้ประจำปีสโมสรก็จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก

เกมที่ไม่มีผู้ชมนั่นก็หมายความว่า อาร์เซนอล จะต้องคืนเงินให้กับแฟนที่ซื้อตั๋วไปแล้วสำหรับอีก 4 เกมที่เหลือในบ้าน ซึ่งจะต้องจ่ายคืน 2 ล้านปอนด์ต่อเกม

เมื่อมองไปที่ฤดูกาลหน้า 2020-21 ก็อาจจะมีผลกระทบหากต้องเล่นในสนามปิดอีกเช่นกัน

รายได้ทางอื่นอย่างพาร์ทเนอร์ก็ยังต้องดิ้นรนเนื่องจากธุรกิจนอกวงการฟุตบอลกำลังเผชิญกับปัญหาไวรัสด้วยเช่นกัน และที่สำคัญที่สุดคือมีโอกาสที่รายได้จากการถ่ายทอดสดจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

มีการประเมินกันว่า 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีกอาจถูกบังคับให้คืนเงินมากถึง 762 ล้านปอนด์หากฤดูกาลนี้เป็นโมฆะ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงต้องมุ่งมั่นที่จะแข่งขันให้สิ้นสุด แม้ว่าจะต้องเล่นในสนามปิด

รายได้ทั้ง 4 นี้จะลดลงเมื่อรวมกับสถานการณ์ทางการเงินที่ยากลำบาก ได้นำไปสู่สถานการณ์ที่ อาร์เซนอล เผชิญในเวลานี้และเจ้าของทีม โครเอนเก้ ก็ได้เริ่มต้นพัธสัญญาทางการเงินให้สโมสรหาเงินเท่าไร ก็ใช้เท่านั้น

นั่นคือสาเหตุที่สโมสรยืนกรานว่าจะต้องทำข้อตกลงกับเหล่านักเตะในช่วงเวลาที่ไม่เคยมีมาก่อน

“สิ่งที่เรากำลังพยายามทำนั้นมีเหตุผลและวางแผนล่วงหน้า ไม่ใช่สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดแต่อยู่บนพื้นฐานที่เรารู้ว่ารายได้ของเราจะลดลง” แหล่งข่าวกล่าว

“สิ่งเดียวที่คุณทำได้เมื่อรายได้ลดลงคือการเริ่มลดต้นทุน”

“ดังนั้นการวางแผนอย่างรอบคอบสำหรับสิ่งที่เรารู้ว่ากำลังจะเกิดขึ้น มันคือสิ่งที่ถูกต้องที่จะทำ ดังนั้นเมื่อสถานการณ์กลับมาปกติอีกครั้ง เราก็สามารถไปต่อได้”

แต่การตัดสินใจของทีมผู้บริหาร อาร์เซนอล 14 คนซึ่งรวมถึงหัวหน้าทีมฟุตบอล ราอูล ซานเญฮี, กรรการผู้จัดการ วิไน เวนคาเทชาม และผู้จัดการทีมอคาเดมี่ย์ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ เพื่อลดค่าจ้างของตัวเองมากว่าหนึ่งในสนามสำหรับ 12 เดือนข้างหน้า เพื่อแบ่งเบาภาระทางการเงินบางส่วน

การเจรจาเพื่อหาทางแก้ปัญหาจะยังดำเนินการต่อไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้าและตัวเลขก็แสดงให้เห็นว่าทำไม อาร์เซนอล จึงหวังว่าพวกเขาจะได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ง

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply